ร้านขายอะไหล่รถมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่จะขายอะไหล่อยู่ 2 ประเภทหลัก คือ อะไหล่แท้ และอะไหล่เทียบเท่า

       1. อะไหล่แท้เช่น ประเก็น หัวเทียน  ไส้กรอง ผ้าเบรค แผ่นคลัช ลูกสูบ ร้านอะไหล่จะสั่งซื้อจากศูนย์ หรือตัวแทนจำหน่ายรถของยี่ห้อนั้น ๆ ส่วนใหญ่จะมีสติ๊กเกอร์ที่มีรายละเอียดยี่ห้อรถ รหัสอะไหล่ ชื่อ บาร์โค้ด จำนวนชิ้น วันเดือนปีที่ผลิต ประเทศที่ผลิต เพื่อให้ร้านอะไหล่หรือช่างประจำร้าน รู้ว่าอะไหล่ชิ้นนั้นใช้กับรถรุ่นไหนได้บ้าง

       แต่ข้อมูลที่อยู่บนสติ๊กเกอร์ บางทีจะเป็นโค้ดหรือรหัสเฉพาะ ที่ทางร้านและพนักงานขายอาจจะไม่เข้าใจและเสียเวลาในการหาอะไหล่เพื่อหยิบขายให้ลูกค้า บางร้านจะใช้วิธีเขียนอธิบายรายละเอียดที่แพ็คเกจเลย อาจเกิดการเขียนผิดหรืออ่านยากและทำให้ดูไม่ดีและไม่น่าเชื่อถือ

       เราแนะนำให้ใช้เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด พิมพ์สติ๊กเกอร์ติดแทนการเขียนด้วยมือ สติ๊กเกอร์ที่เหมาะสมคือขนาด 3.5 x 2.5 ซม. ติดไว้ที่มุมใดมุมหนึ่ง ไม่ให้ทับสติ๊กเกอร์เดิมจากศูนย์ รายละเอียดที่ควรใส่ คือ ชื่อสินค้า บาร์โค้ด รหัสสินค้า และราคา

       2. อะไหล่เทียบเท่า เช่น ปลั๊กหัวเทียน โคมไฟหน้า โคมไฟหลัง  ไฟเลี้ยว กระจกมองข้าง ท่อยาง ซีลยาง เราแนะนำให้ทำสติ๊กเกอร์ติดสินค้า เพื่อแสดงรายละเอียดที่ต้องการเช่น ชื่ออะไหล่ รุ่น บาร์โค้ด จำนวนชิ้น วันเดือนปีที่ผลิต คำแนะนำ วิธีใช้ จะช่วยในการแบ่งแยกอะไหล่ได้ชัดเจน และง่ายในการหยิบขายสินค้า

       การทำสติ๊กเกอร์สามารถสั่งทำโลโก้ของร้าน หรือ แบรนด์ของอะไหล่บนสติ๊กเกอร์ ด้วยต้นทุนในการทำต่อชิ้นไม่เกิน 1 บาทเท่านั้น ซึ่งจะช่วยทำให้อะไหล่ทุกชิ้นดูมีมาตรฐานยิ่งขึ้น และยังช่วยสร้างแบรนด์ทำให้ลูกค้ารู้จักและจำได้ ง่ายต่อการบอกต่อและกลับมาซื้อซ้ำ การทำสติ๊กเกอร์แบรนด์ ติดบนอะไหล่ ยังจะช่วยให้ลูกค้า รู้จัก   แบรนด์ของเรา ถึงแม้จะซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย

       อะไหล่ตกแต่ง จะเป็นสินค้าที่ร้านอะไหล่บางร้านขายเพิ่ม เช่น โช้ค ปลอกแฮน รีเลย์ ชุดปลั๊กหัวเทียน ส่วนใหญ่จะแขวนโชว์ไว้ ให้ลูกค้าเลือกเองเพราะ มีหลายแบบ หลายรุ่น หลายสี

       โดยทั่วไปอะไหล่ตกแต่งจะมีแพ็คเกจที่สวยงามมาแล้วจากผู้ผลิต แต่จะขาดราคาขาย บาร์โค้ด และการระบุรุ่นของรถที่ใช้กับอะไหล่ได้ ซึ่งอาจจะทำให้ลูกค้าที่มาเลือกซื้อ ไม่แน่ใจว่าอะไหล่ชิ้นนั้นตรงกับความต้องการหรือไม่

       เราแนะนำให้ร้านอะไหล่พิมพ์สติ๊กเกอร์ติดที่แพ็คเกจของอะไหล่ตกแต่ง เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่าย ไม่ต้องเสียเวลามาคอยตอบลูกค้าบ่อยๆ สติ๊กเกอร์ที่เหมาะสมคือขนาด 5 x 2.5 ซม. สามารถใส่รายละเอียดสินค้าได้ครบตามต้องการ และเหมาะสมกับแพ็คเกจหลายขนาด

       ส่วนอะไหล่ตกแต่ง ที่ไม่มีแพ็คเกจ หรืออะไหล่ที่ร้านต้องการแพ็คใส่ถุง เพื่อแบ่งขาย เช่น น็อต ขายึดปั้ม ข้อต่อโซ่  คันเกียร์ บูชล้อ ร้านอะไหล่สามารถแพ็คใส่ถุง แล้วพิมพ์สติ๊กเกอร์ติด เพื่อบอกรายละเอียดของอะไหล่ เช่น ชื่อ สี บาร์โค้ด และการระบุรุ่นของรถที่ใช้กับอะไหล่ได้ นอกจากนี้ร้านอะไหล่ก็สามารถสั่งทำโลโก้ของร้าน หรือ แบรนด์ของอะไหล่บนสติ๊กเกอร์ เพื่อสร้างแบรนด์ช่วยให้ลูกค้าจดจำสินค้าเราได้มากขึ้น

สติ๊กเกอร์บาร์โค้ดสำหรับอะไหล่รถขนาดใหญ่ เช่น รถบรรทุก และ รถแทรกเตอร์

       อะไหล่รถบรรทุกจะมีทั้งชิ้นเล็ก และ ชิ้นใหญ่ การจัดเรียงสินค้าของร้านผู้จำหน่าย ก็จะมีวิธีแตกต่างกันไป เช่น

1.  แบ่งตามยี่ห้อรถ

       การจัดชั้นวางสินค้าแบ่งตามยี่ห้อรถ จะช่วยให้ง่ายต่อการหยิบขายให้ลูกค้า เมื่อลูกค้าระบุยี่ห้อที่ต้องการ แต่ปัญหาที่จะพบจากการจัดวางสินค้าแบบนี้คือ พนักงานขายอาจจะหยิบอะไหล่ผิดยี่ห้อหรือผิดรุ่น การใช้สติ๊กเกอร์พิมพ์รายละเอียด เช่น ยี่ห้อรถ รุ่น Part no. แปะลงไปบนกล่องสินค้า จะช่วยให้พนักงานหยิบอะไหล่ได้เร็วและสะดวกขึ้น

       การติดสติ๊กเกอร์ไว้ที่กล่อง จะช่วยให้พนักงาน ไม่ต้องเปิดสินค้าดูทุกกล่อง และถ้าร้านผู้จำหน่ายใช้โปรแกรมขายหน้าร้านอยู่แล้ว สามารถพิมพ์บาร์โค้ดเพิ่มไปบนสติ๊กเกอร์ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก ในการขายและจัดการสต๊อกสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“ เราสามารถสั่งทำสติ๊กเกอร์พิมพ์โลโก้ยี่ห้อรถ เพื่อมองเห็นอะไหล่รถของแต่ละยี่ห้อได้ชัดเจนขึ้น ”

       ร้านอะไหล่ขนาดเล็กก็สามารถสั่งทำโลโก้ของร้าน บนสติ๊กเกอร์ได้เช่นกัน  ต้นทุนในการทำสติ๊กเกอร์ยังต่ำกว่าดวงละ 1 บาท จำนวนในการสั่งทำสติ๊กเกอร์ขั้นต่ำแค่ 10,000 ดวงเท่านั้น แค่นี้ร้านค้าก็จะมีแบรนด์อะไหล่รถบรรทุกเป็นของตัวเอง

2.  แบ่งตามกลุ่มของอะไหล่

       การจัดแบ่งตามกลุ่มของอะไหล่รถ เช่น อะไหล่เครื่องยนต์ อะไหล่เกียร์และระบบเบรก อะไหล่ส่วนหัวเก๋งและตัวถัง สายควบคุม อุปกรณ์ไฟ อุปกรณ์พ่วงและเครื่องมือต่าง ๆ อะไหล่ตกแต่ง ชุดซ่อมต่าง ๆ เป็นต้น การแบ่งแบบนี้ร้านค้ามักจะแบ่งตามหมวดหมู่สินค้าที่อยู่ในเว็บไซต์ ถ้าหากร้านค้าไม่ติดสติ๊กเกอร์ไว้ที่อะไหล่ เวลาลูกค้าโทรมาสอบถามสินค้า จะยากต่อการเช็คของ และ ปัญหาอีกอย่างคือ อะไหล่จะมีลักษณะที่ คล้าย ๆ กัน อะไหล่บางชิ้นส่วนจะเหมือนกัน แต่ต่างกันที่รุ่นเก่ากับรุ่นใหม่ ยิ่งถ้ามีแพ็คเกจเหมือนกัน จะไม่สามารถแยกความแตกต่างได้ การพิมพ์สติ๊กเกอร์ติดเพื่อบอกรายละเอียดจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เราสามารถพิมพ์ ยี่ห้อรถ รหัสอะไหล่ บาร์โค้ด จำนวนชิ้น ประเทศผู้ผลิต และรายละเอียดอื่นๆ ตามที่ต้องการ

       อะไหล่บางชนิด ผู้จำหน่ายต้องนำมาแพ็คใส่ถุงแยกขาย เช่น น็อต ไฟ แหวนรอง การทำสติ๊กเกอร์ติดที่ถุง จะช่วยระบุรายละเอียดสินค้าให้ชัดเจนขึ้น เช่น ชนิด รุ่น ขนาด เป็นต้น เพราะอะไหล่จะมีทั้งของแท้ และของเทียบเท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าบนสติ๊กเกอร์มีโลโก้ของยี่ห้อรถ ก็จะทำให้ดูมีแบรนด์และน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น

      ส่วนอะไหล่ที่ถูกบรรจุใส่ถุงและติดสติ๊กเกอร์มาแล้วจากผู้ผลิต แต่ระบุรายละเอียดสินค้าไม่ครบ เช่น ไม่มีราคาหรือชื่อสินค้าที่เป็นภาษาไทย ร้านอะไหล่สามารถใช้สติ๊กเกอร์พิมพ์รายละเอียดที่ต้องการเพิ่ม ติดไปบนถุงได้ เราขอแนะนำสติ๊กเกอร์ขนาด 5.2 x 4.2 ซม. ซึ่งสามารถพิมพ์รายละเอียดได้ครบ ทั้งชื่อและรุ่นของอะไหล่ ราคา และบาร์โค้ดได้

       สำหรับอะไหล่ประเภทน็อตของรถบรรทุก จะมีลักษณะยาว และ ใหญ่พอที่จะติดสติ๊กเกอร์ที่ตัวน็อตได้เลย การพิมพ์สติ๊กเกอร์เพื่อระบุชนิดและขนาดของน็อต ทำให้สะดวกในการจัดเก็บและหยิบขาย สติ๊กเกอร์ที่เหมาะสมคือขนาด 5 x 2 ซม. เพราะสามารถติดตามแนวยาวของตัวน็อตได้พอดี

       ในกรณีอะไหล่ที่มีขนาดใหญ่เช่น ท่อไอเสีย แหนบ เพลา กระจังหน้า จะถูกจัดวางซ้อนกันไว้ ร้านอะไหล่ควรใช้สติ๊กเกอร์ที่มีขนาดใหญ่พอ เช่น ขนาด 10.2 x 7.6 ซม. ซึ่งสามารถระบุรายละเอียดต่างๆของสินค้าได้ครบและมีขนาดใหญ่พอที่จะเห็นได้ชัดเจน

Scroll to top