การพิมพ์ใบปะหน้าสำหรับร้านค้าออนไลน์ทั่วไป 

       ปัญหาสำหรับแม่ค้าออนไลน์ที่ส่งของให้ลูกค้าโดยวิธีแบบเดิม คือการเขียนที่อยู่บนกล่องด้วยลายมือ บางทีข้อความอาจตกหล่น เมื่อมีการเขียนผิดต้องลบแล้วเขียนใหม่ทำให้ที่อยู่ไม่ชัดเจน อาจทำให้เกิดความล่าช้าในการจัดส่ง หรือ อาจส่งไม่ถึงมือลูกค้า

       การใช้กระดาษ A4 ธรรมดา กับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท เวลาฝนตกหรือน้ำหยดใส่กระดาษ ที่พิมพ์ใบแปะหน้าจะทำให้ หมึกเลอะเลือนและอ่านข้อความไม่ได้ ทำให้สินค้าอาจโดนตีกลับ และเกิดปัญหาสินค้าตกหล่นไม่ถึงมือผู้รับด้วยเช่นกัน

“ เปลี่ยนมาใช้สติ๊กเกอร์พิมพ์กับเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด หมึกจะไม่ลบเลือน และไม่เสียหายเมื่อโดนน้ำ ”

       เราขอแนะนำให้ใช้เครื่องพิมพ์สติ๊กเกอร์ พิมพ์ที่อยู่ในการส่งของแทนการเขียนด้วยลายมือ เพราะทำให้ข้อความชัดเจน และแก้ไขได้เมื่อมีการพิมพ์ผิดพลาด ซึ่งเมื่อโดนน้ำ หมึกจะไม่ลบเลือนและข้อความไม่เสียหาย

       เนื่องจากสติ๊กเกอร์มีกาวอยู่แล้ว จึงทำให้ลอกสติ๊กเกอร์ติดที่กล่องได้เลย และช่วยประหยัดเวลาได้ด้วย เราสามารถคัดลอกที่อยู่ของลูกค้าจาก LINE หรือ Facebook มาวางในโปรแกรมสั่งพิมพ์ และถ้าเป็นลูกค้าเก่าที่มีฐานข้อมูลอยู่แล้ว ไม่ต้องสร้างไฟล์งานใหม่ สามารถดึงไฟล์งานเก่าหรือเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล Excel พิมพ์ออกมาได้เลย

       เครื่องพิมพ์บาร์โค้ดที่เราแนะนำคือ เครื่องพิมพ์ยี่ห้อ Wincode รุ่น C342 จุดเด่นของรุ่นนี้คือ สามารถพิมพ์จากลิสต์ข้อมูลใน Excel ได้ ราคาถูกกว่าเครื่องตัวอื่นที่มีสเปคเทียบเคียงกัน และเหมาะสำหรับการพิมพ์ที่อยู่ส่งของให้ลูกค้า หรือสามารถพิมพ์รายละเอียดสินค้าหลายชนิดพร้อมๆกัน และพิมพ์ชื่อที่อยู่ของลูกค้าได้หลายๆรายในการสั่งพิมพ์แค่ครั้งเดียว

       กล่องที่ใช้ส่งของก็มีหลายขนาด เราจึงควรเลือกสติ๊กเกอร์ที่มีขนาดเหมาะสมพอดีกับพื้นที่ที่จะติด  นอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว การลดขนาดสติ๊กเกอร์ตามขนาดกล่องจะช่วยประหยัดต้นทุนในการจัดส่งได้อีกด้วย

สติ๊กเกอร์ที่ควรเลือกใช้ให้เหมาะกับกล่องมาตรฐานมีดังนี้

กล่องเบอร์ 0 ควรใช้สติ๊กเกอร์ขนาด 10 x 5 ซม.
บาร์โค้ดกับร้านค้า กล่องเบอร์ AA ควรใช้สติ๊กเกอร์ขนาด  10.2 x 7.6 ซม
บาร์โค้ดกับร้านค้า กล่องเบอร์ 2B และขนาดที่ใหญ่ขึ้น ควรใช้สติ๊กเกอร์ขนาด  4 x 6 นิ้ว

        ถ้าร้านค้าที่มีพัสดุจัดส่งเยอะในแต่ละวัน แม่ค้าสามารถพิมพ์ที่อยู่ของร้านไว้ครั้งละหลายๆชิ้นไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่เสียเวลาในการพิมพ์สติ๊กเกอร์แปะทีละกล่อง สติ๊กเกอร์ที่แนะนำคือขนาด

 

ส่วนที่อยู่ผู้รับ ร้านค้าจะใช้สติ๊กเกอร์ขนาดเดียวกันกับที่อยู่ผู้ส่งก็ได้ หรือจะใช้สติ๊กเกอร์ขนาด 10 x 5 ซม. จะทำให้ดูขนาดแตกต่างกัน  และเห็นชัดเจนขึ้น

       นอกจากจะใส่ชื่อที่อยู่แล้ว ร้านค้ายังสามารถใส่ QR Code ที่มีลิงค์เว็บไซต์ หรือ ID LINE ของร้านค้า เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าติดต่อกลับ หรือซื้อสินค้าซ้ำได้อีกด้วย

ปัจจุบันแม่ค้าออนไลน์จะใช้เครื่องพิมพ์ใบแปะหน้าส่งของอยู่ 3 ประเภทหลักๆ คือ

1. เครื่องพิมพ์แบบพกพา
2. เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท
เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด ขนาดเล็ก 3. เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด

โดยทั้ง 3 ประเภท จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน

       จากตารางจะเห็นว่า เครื่องพิมพ์ที่เหมาะสมกับแม่ค้าออนไลน์ คือ เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด เพราะสามารถพิมพ์ได้ทั้งใบแปะหน้ากล่อง และยังสามารถเอาไว้พิมพ์สติ๊กเกอร์บาร์โค้ด หรือฉลากสินค้าอื่นๆได้อีกด้วย อีกทั้งยังพิมพ์สติ๊กเกอร์ได้หลายชนิด หลายขนาด โดยเฉพาะกับร้านค้าที่ขายสินค้าหลายประเภทหลายไซส์ เช่น ร้านขายเสื้อผ้า ร้านขายกระเป๋า ร้านขายรองเท้า ร้านขายของเล่น และอีกมากมาย เครื่องพิมพ์บารโค้ดจะมีความเหมาะสมในการใช้งานมากที่สุด

คุณสมบัติเด่นของเครื่องพิมพ์บาร์โค้ด ที่แม่ค้าออนไลน์ส่วนใหญ่ชอบ คือ

ระบบออนไลน์ LAZADA และ SHOPEE

       สติ๊กเกอร์ติดกล่องหรือถุงสินค้า สำหรับผู้ขายสินค้าทางออนไลน์ เช่น LAZADA  และ SHOPEE จะมีขนาดที่ทางระบบกำหนดมาให้อยู่แล้ว โดยถ้าใช้กระดาษ A4 พิมพ์จากเครื่องปริ้นเตอร์ทั่วไป จะต้องใช้สก๊อตเทปแปะเวลาติดหน้ากล่อง ทำให้เสียเวลา และดูไม่เป็นมืออาชีพ

       เราขอแนะนำใช้เครื่องพิมพ์บาร์โค้ด พิมพ์กับสติ๊กเกอร์ขนาด 4 x 6 นิ้ว
ซึ่งเป็นขนาดที่พอดี สามารถใส่รายละเอียดได้ครบถ้วน เช่น ชื่อและที่อยู่ของผู้ส่ง /ผู้รับ เลขที่ออเดอร์ บาร์โค้ดติดตามสินค้า

       ถ้าใช้สติ๊กเกอร์ที่มีขนาดเล็กกว่านี้ รายละเอียดบนใบแปะหน้าจะถูกบีบให้เล็กลง ทำให้ลำบากในการสแกนอ่านบาร์โค้ดที่ใช้ในการจัดส่ง เพราะหากอ่านรหัสบาร์โค้ดติดตามสินค้าไม่ได้ จะทำให้เกิดความล่าช้าในการรับเข้าระบบและการขนส่ง

      สติ๊กเกอร์ขนาด 4 x 6 นิ้ว ที่เราจำหน่ายมีอยู่ 2 ชนิดคือ กึ่งมันกึ่งด้าน และ ไดเร็คเทอร์มอล
สติ๊กเกอร์กึ่งมันกึ่งด้านเป็นสติ๊กเกอร์ที่ลูกค้านิยมใช้มากที่สุด เพราะราคาไม่แพง อยู่ทน เหมาะกับสินค้าที่เก็บนานเกิน 1 ปี เมื่อพิมพ์คู่กับผ้าหมึก ( WAX ) ข้อความที่พิมพ์จะไม่ถูกลบเลือน 

       ส่วนสติ๊กเกอร์ไดเร็คเทอร์มอล จะเป็นสติ๊กเกอร์ที่มีเคมีในตัว พิมพ์ผ่านความร้อนโดยตรง ไม่ต้องใช้ผ้าหมึก แต่มีอายุการใช้งานสั้นกว่า เหมาะกับสินค้าที่ต้องการเก็บไว้ไม่เกิน 1 เดือน เพราะข้อความบนสติ๊กเกอร์จะจางเร็วเมื่อมีการเสียดสี โดนน้ำ หรือถูกแสงแดด (คล้ายกระดาษแฟ็กซ์)

 

Scroll to top